วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Avira AntiVir


โปรแกรมยอดนิยมอันดับที่ 8

        Avira เป็นผู้ผลิตโปรแกรม Antivirus คุณภาพระดับโลก สัญชาติเยอรมัน ที่รับรางวัลจากหลายสถาบันมาแล้ว คนไทยมักจะรู้จักกันในชื่อของ “ร่มแดง”   เป็นฟรีแวร์โปรแกรมแอนตี้ไวรัส (Anti-Virus Software)  ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ได้รับรางวัล THE BEST FREEWARE ซึ่งหลายๆสถาบันรับรองแล้ว ว่าประสิทธิภาพในเรื่องของการป้องกันไวรัส ไม่เป็นรองโปรแกรมใดๆ แน่นอน


          AntiVir Avira แก้ปัญหาและป้องกันไวรัสแบบต่อเนื่องและงรวดเร็ว ยกตัวอย่างเช่น  ไวรัส, โทรจัน, , เวิร์มเป็นต้น มีการตอบสนองทันทีเมื่อตรวจพบโปรแกรมอันตราย

ข้อดี
- ตรวจจับและลบมากกว่า 150,000 ไวรัส

ตรวจสอบการเคลื่อนไหวของแฟ้มโดยอัตโนมัติ  เช่น การดาวน์โหลดข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต  

- การป้องกันโทรจัน, เวิร์ม,และโปรแกรมที่เป็นอันตรายอื่น ๆ 
 
- มีการใช้งานที่ง่าย

ข้อเสีย 
- ขาดความสามารถในการตรวจจับ malware ใหม่ๆ

การใช้งานโปรแกรมเฉพาะส่วนที่สำคัญ
คู่มือใช้งานโปรแกรมกำจัดไวรัส Avira AntiVir PersonalEdition Classic

หลังจากติดตั้งโปรแกรมเสร็จแล้ว เมื่อเปิดโปรแกรมจะมีหน้าต่างโชว์ดังรูป

แนะนำเมนูใช้งานต่างๆ
Status
-เป็นหน้าจอแสดงสถานะของโปรแกรมเหมือนดังรูปข้างบน
Scanner
-เป็นหน้าจอสำหรับใช้แสกนไวรัส โดยสามารถเลือกไดรว์หรือโฟล์เดอร์ที่ต้องกานสแกนได้
Guard
- เป็นหน้าจอแสดงรายละเอียดในการสแกนแต่ละครั้ง เช่นจำนวนไฟล์ที่ติดไวรัส
Quarantine
-เป็นหน้าจอแสดงรายชื่อไวรัสที่โดนกักขังอยู่ ในกรณีที่โปรแกรมยังไม่สามารถกำจัดได้ เพื่อป้องกันการแพร่การะจาย
Scheduler
-เป็นหน้าจอแสดงการตั้งเวลาสแกนอัตโนมัติ
Reports
-เป็นหน้าจอแสดงรายงานผลการสแกน

วิธีใช้งาน



1.คลิกที่แทป Scanner
2.คลิกเลือกไดรว์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการสแกน(ในที่นี้เลือก Local Drives คือเลือกทุกไดรว์)
3.คลิกที่รูปแว่นขยายดังรูปเพื่อเริ่มทำการสแกน
- โปรแกรมจะเริ่มทำการสแกน
- หลังจากสแกนเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะขึ้นหน้าต่างดังรูป


1.คลิกปุ่ม End โปรแกรมจะทำการกำจัดไวรัสที่พบให้โดยอัตโนมัติ
2.คลิกที่ปุ่ม Report หากต้องการดูรายละเอียดการสแกน
Quarantine
-สามารถเข้าไปลบไวรัสที่ถูกกักขังใน Quarantine ได้โดยการคลิกเลือกที่ไฟล์ที่เป็นไวรัสและคลิกที่รูปถังขยะ
การอัพเดทข้อมูลไวรัส
-คลิกที่แทปเมนู Status
-ที่ไอคอน Last Update ให้คลิกที่ Start Update ด้านขวามือเพื่อทำการอัพเดทออนไลน์


ที่มา
-http://www.blogkore.com/2011/01/06/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%97%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A-antivirus-%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%97/
-itnow.exteen.com/20080425/avira-antivir


วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Keylogger


Keylogger คืออะไร   
       ในขณะที่อินเตอร์เน็ตทำให้โลกของเราถูกย่อลงมาอยู่ในคอมพิวเตอร์ของเรา ทำให้เราอยากจะติดต่อสื่อสารกับเพื่อนๆ ที่อยู่ห่างไกลออกไปได้ง่าย, ประหยัดและสะดวกมากขึ้น พ่อแม่ผู้ปกครองหรือนายจ้างบางคนอาจจำเป็นต้องคอยสอดส่องดูแลลูกหลานหรือ ลูกจ้างของตัวเองอย่างใกล้ชิด ไม่ให้ใช้คอมพิวเตอร์หรืออินเตอร์เน็ตในทางที่ไม่ถูกต้องด้วยเหตุผลนี้ จึงได้มีผู้ผลิตบางรายได้ผลิตอุปกรณ์หรือพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เรียก ว่า Keylogger สำหรับใช้ในการตรวจสอบพฤติกรรมการใช้งานคอมพิวเตอร์ของเป้าหมาย เพื่อดักจับข้อมูลการใช้งานคีย์บอร์ดหรือแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ มือถือของเรา แต่ก็มีคนนำมาใช้ในทางที่ผิด แอบดักข้อมูลสำคัญๆ อย่างไอดีกับพาสเวิร์ดสำหรับทำธุรกรรมต่างๆ ของเราไป สร้างความเสียหายกับสังคมเป็นอย่างมาก

ตัวอย่าง Keylogger ทั้ง 2 ประเภท
1.Keylogger Hardware

    อุปกรณ์ Keylogger Hardware นั้นมีมากมายหลายแบบหลายรุ่น บางรุ่นมีหน่วยความจำในตัวเยอะสามารถบันทึกประวัติการป้อนข้อมูลผ่าน คีย์บอร์ดได้มากถึง 2,000,000 ครั้ง  หรือเทียบเท่าข้อมูลตัวอักษรบนเอกสาร 1,000 หน้า ในขณะที่บางรุ่นสามารถส่งข้อมูลผ่านทางสัญญาณสื่อสารไร้สายได้อีกด้วย


2.โปรแกรมคอมพิวเตอร์ Keylogger
      โปรแกรมคอมพิวเตอร์ Keylogger ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการสอดส่องดูแล การใช้งานคอมพิวเตอร์ของลูกหลานหรือลุกจ้างไม่ให้ใช้ไปในทางที่ผิดๆ มีอยู่มากมายหลายตัวในท้องตลาด แต่ส่วนใหญ่จะทำหน้าที่คล้ายๆ กัน คือดักจับและบันทึกข้อมูลการกดแป้นพิมพ์และปุ่มต่างๆ บนคีย์บอร์ด



วิธีการป้องกัน
- อย่าโหลดโปรแกรม ซอฟต์แวร์ที่ไม่จำเป็น หรือไม่รู้จักมาลองใช้
- ลงโปรแกรมฆ่าไวรัส เช่น NOD32, Mcafe ไว้ในเครื่องเ และต้องอัพเดทไฟล์ข้อมูลไวรัส เพื่อให้โปรแกรมรู้จักไวรัสตัวใหม่ๆได้เสมอ
- อย่าให้บราวเซอร์จำรหัสให้  ถ้าเป็นเว็บเกี่ยวกับการเงิน ให้ใช้ copy และ paste ใหม่เองทุกครั้ง โดยอาจเก็บไฟล์รหัสต่างๆไว้ในไฟล์ข้อความ หรือ  word เวลาใช้ให้ copy และ paste ลงไปแทน

(ข้อมูลจาก http://www.isee.in.th/security/what-is-keylogger)

โทรจัน (Trojan)


โทรจัน (Trojan) คือ          
     โทรจัน (Trojan) คือโปรแกรมจำพวกหนึ่งที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อแอบแฝง กระทำการบางอย่าง ในเครื่องของเรา  โทรจันจะถูกแนบมากับ อีเมล์ หรือโปรแกรมที่มีให้ดาวน์โหลดตามอินเทอร์เน็ตในเว็บไซต์ และสามารถเข้ามาในเครื่องของเรา โดยที่เราเป็นผู้รับมันมาโดยไม่รู้ตัว
อาการที่พบ
     อยู่ดีๆ ไดรฟ์ CD-Rom ก็เปิดปิดชักเข้าชักออก   หรือ  ไม่ก็อยู่ดีๆเครื่องก็มีเสียงเพลงขึ้นมาก
Virus และ Trojan เหมือนกันอย่างไร
1. เป็นไฟล์ที่ไม่ประสงค์ดีต่อเครื่องของเรา
2. เครื่องเราจะติดเชื้อเมื่อไปเปิดโปรแกรมที่มีไฟล์ Virus หรือ Trojan ที่เกิดจากการโหลดจากอินเตอร์เน็ต หรือเปิดจากแผ่น CD หรือ DVD ต่างๆ

Virus และ Trojan ต่างกันอย่างไร
1. Virus เป็นเพียงไฟล์ที่สร้างความปั่นป่วนให้กับเครื่องหรือระบบของเราเท่า นั้น เช่น การลบไฟล์บางตัวใน system หรือการ copy ตัวเองเพื่อให้ harddisk เต็ม
2. Trojan เป็นโปรแกรมขนาดเล็กที่จะเข้ามาฝังตัวในเครื่องของเรา และจะเกิดประโยชน์ต่อเจ้าของ Trojan ที่ส่งมาให้เรา ประโยชน์ของเขานั้นก็เช่น อาจจะเป็นโปรแกรม keylock หรือที่มันจะ lock ID หรือ password ของโปรแกรมบางตัวที่เขากำหนดไว้ เช่น ragnarok ไม่ว่าคุณจะเขาไปเปลี่ยน pass สัก 100 ครั้ง 1000 ครั้ง ถ้าโปรแกรม Trojan ตัวนั้นยังอยู่ในเครื่อง

การป้องกันไม่ให้เครื่องโดนเจ้าโทรจันบุกรุก
1. ไม่รับไฟล์ใดทาง Internet จากคนแปลกหน้าไม่ว่าทาง E-Mail และโปรแกรมต่างๆ
2. ตรวจสอบไฟล์ที่รับทาง Internet ทุกครั้งด้วยโปรแกรมตรวจจับTrojan รวมทั้งที่ Download มาด้วย
3. ไม่เข้าเว็บไซต์ที่ไม่น่าไว้วางใจ

 ทำอย่างไรจึงรู้ว่ามีผู้บุกรุก
1. หมั่นใช้โปรแกรมตรวจจับโทรจัน บ่อยๆ และหมั่น Upgrade โปรแกรมตรวจจับโทรจัน
2. คอยสังเกตดูอาการต่างๆ ที่ผิดปกติของเครื่อง
3. ทุกครั้งที่เล่นอินเทอร์เน็ท ต้องบันทึกวันเวลาและจำนวนชั่วโมงที่ใช้เสมอ
4. ทุกครั้งที่ Log in เข้าระบบไม่ได้ทั้งที่ชั่วโมงอินเทอร์เน็ทยังไม่หมด ให้สันนิษฐานว่าโดนขโมย Username กับ Pass word
(ข้อมูลจาก http://www.bkkonline.com/it-article/27-sep-43.shtml)